"รวยทางลัด! สศท.8 ชี้ 'กาแฟกระบี่' ผลตอบแทนพุ่ง 24 เท่า หากแปรรูปเป็นกาแฟสด ดัน Smart Farming ยกระดับสู่ตลาดโลก"
[กรุงเทพฯ/กระบี่] สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 (สศท.8) เปิดเผยผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาสินค้ากาแฟในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ชี้ชัดว่า "กาแฟเมืองกระบี่" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์โรบัสต้า มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าผลตอบแทนสุทธิที่เกษตรกรได้รับถึง 24 เท่า พร้อมผลักดันการใช้เทคโนโลยี Smart Farming เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
"กาแฟกระบี่" ทำกำไรดี เกษตรกรรับสุทธิ 25,093 บาทต่อไร่
จากการศึกษาพบว่า กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่ไทยยังมีความต้องการนำเข้าสูงถึง 63,457 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 6,875 ล้านบาท เนื่องจากผลผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ [
ในปีการผลิต 2566 เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในกระบี่ มีต้นทุนการผลิตรวมอยู่ที่ 14,959.89 บาทต่อไร่ แต่มีผลผลิตเฉลี่ยสูงถึง 190.42 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อจำหน่ายได้ในราคาเฉลี่ย 186.71 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนสุทธิสูงถึง 25,093.43 บาทต่อไร่ [
คีย์สำคัญ: แปรรูปสู่กาแฟสด เพิ่มมูลค่าสูงถึง 24 เท่า
สิ่งที่น่าจับตาคือส่วนเหลื่อมทางการตลาดที่สูงมากจากการแปรรูป โดยพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่จำหน่ายผลผลิตให้วิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีบทบาทในการแปรรูปและจำหน่ายต่อ
การจำหน่ายในรูป เมล็ดกาแฟคั่ว มีส่วนเหลื่อมการตลาด 523.29 บาทต่อกิโลกรัม [
02:17 แต่เมื่อแปรรูปและจำหน่ายในรูปแบบ ผลิตภัณฑ์กาแฟสด กลับมีส่วนเหลื่อมการตลาดสูงถึง 2,613.29 บาทต่อกิโลกรัม [
02:24 02:32
ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตกาแฟเมืองกระบี่
แนวทางพัฒนา 3 ด้าน สู่การแข่งขันในระยะยาว
นักวิจัยได้เสนอแนวทางการพัฒนากาแฟเมืองกระบี่อย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน:
ด้านการผลิต:
ยกระดับคุณภาพ เน้นการคัดเลือกและใช้พันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ [
02:45 ใช้เทคโนโลยี ส่งเสริมการนำ Smart Farming เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงด้านแรงงานและภัยธรรมชาติ [
02:51 เสริมสร้างความเข้มแข็ง ของวิสาหกิจชุมชนผ่านการเชื่อมโยงเครือข่าย และการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน เช่น โรงคั่วและโรงตักกาแฟ [
03:09
ด้านการตลาด:
กลไกขับเคลื่อนระดับจังหวัด: ผู้อำนวยการ สศท.8 เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดตั้งกลไกการขับเคลื่อนในระดับจังหวัด ที่บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน (รัฐ เอกชน และชุมชน) เพื่อบริหารจัดการสินค้าตลอดโซ่อุปทาน และให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กาแฟเมืองกระบี่สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว [
03:51
อ้างอิง: ข้อมูลจาก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 (สศท.8) [
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น