ผู้ว่าฯกระบี่เดินสายพบปะ รับฟังปัญหา อุปสรรค และมอบนโยบายหัวหน้าส่วนระดับอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและข้าราชการ ชวนลงเรือลำเดียวกัน ร่วมรัฐนาวาด้วยกัน เดินหน้าพัฒนาจังหวัดกระบี่
วันที่ 11 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. นายภาสกรบุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายธานี หะยีมะสาและ ปลัดจังหวัดกระบี่ นายราชัน มีน้อย หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายสงัด พืชพันธ์พัฒนาการจังหวัดและนายสาโรจน์ ไชยมาตร ท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ ได้ลงพื้นที่อำเภอเมือง พบปะ รับฟังปัญหา อุปสรรค และมอบนโยบาย โดยมีนายนายสุวิทย์ สุริยวงศ์ นายอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนระดับอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและข้าราชการ เข้าร่วมรับฟังกว่า 250 คน
.
และในเวลา 13.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอเหนือคลอง โดยมีนายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ นายอำเภอเหนือคลอง และหัวหน้าส่วนระดับอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและข้าราชการ เข้าร่วมรับฟังกว่า 100 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวมอบนโยบายว่า วันนี้มาเพื่อแนะนำตัวได้รู้จักกัน และมาพบปะ ร่วมพูดคุยกับพี่น้องข้าราชการ หัวหน้าส่วนระดับอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและมารับทราบปัญหาอุปสรรคของท้องที่ และเพื่อมาชวนลงเรือลำเดียวกัน ร่วมรัฐนาวาด้วยกัน ในการทำงานร่วมกัน ผู้ว่าฯกับนายอำเภอทำงานไม่ต่างกัน แต่นายอำเภอทำงานสนุกกว่าเข้าถึงรากหญ้าเข้าถึงประชาชนมากกว่า นโยบายและแนวทางการทำงานของผู้ว่าฯสรุปได้ว่า
📌 นโยบายของกระทรวง กรม ต่างๆที่ลงมาเปรียบเสมือนยาชุดที่เหมือนกันทั่วประเทศ เราจะไม่เลือกใช้ยาชุด แต่เราจะเลือกใช้ยาแต่ละชนิดให้ตรงกับอาการนั่นหมายถึงบริบทแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ผู้ว่าฯและส่วนราชการ มีหน้าที่ทำโครงสร้างการพัฒนาเมืองให้มีความแข็งแรง แต่ไม่ใช่เป็นผู้กำหนดทิศทาง การกำหนดทิศทางต้องเกิดจากความต้องการของประชาชนโดยผ่านมาทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและประชาคม การพัฒนาเมืองเรามีทิศทางที่จะเดินไปด้วยกัน เพื่อให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน ต้องทำงาน ร่วมมือกันทุกภาคส่วน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันพัฒนา มาเป็นผู้ว่าฯกระบี่วันนี้ไม่ได้มาคนเดียวแต่ “พกหัวใจมาด้วยเกิน 100”พร้อมที่จะทำงาน มาให้พี่น้องชาวกระบี่ใช้ และชอบการทำงานที่มีการวางแผนล่วงหน้า
.
📌 ท้องถิ่น ท้องที่ต้องจับมือเดินไปด้วยกัน สามัคคีกัน จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท้องถิ่นและประชาชน การทำงานของผู้บริหารท้องถิ่น และท้องที่เปรียบเสมือนแขนซ้ายและแขนขวาของนายอำเภอ ผู้ว่าฯมีความมั่นใจในการทำงานของทุกท่านและพร้อมลงพื้นที่ไปช่วยแก้ปัญหาในทุกเรื่องที่ช่วยได้ และอยู่ในความรับผิดชอบ รวมถึงถ้าแก้ระดับพื้นที่ไม่ได้พร้อมประสานงานไปยังส่วนกลางเพื่อแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ ผู้บริหารท้องถิ่น นอกจากจะบริหารในรูปแบบราชการแล้ว ต้องเป็นนักธุรกิจด้วย นั่นหมายถึงต้องมีความสามารถดึงงบประมาณจากภายนอกมาลงพื้นที่ได้ อย่าบริหารแต่งบประมาณในกระเป๋าเอง รวมถึงต้องเป็นนักการตลาดด้วย นอกจากนี้โครงการ แผนงาน ในพื้นที่ต้องพร้อมตลอดเวลา ทั้งปร.4 ปร.5 เมื่องบประมาณเร่งด่วนเข้ามา สามารถหยิบโครงการมานำเสนอและทำได้ทันที
📌ในส่วนของปกครองท้องที่ภารกิจหลักของกระทรวงมหาดไทย”บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน” ต้องเข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนรวมถึงความเดือดร้อนต่างๆ ผู้ว่าฯยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างสถาบันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจำเป็นต้องอยู่คู่สังคมไทย ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่สิ่งที่สำคัญต้องสร้างความศรัทธาและความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นต่อประชาชนด้วย
📌 ด้านยาเสพติดเป็นเรื่องหลักที่ต้องให้ความสำคัญและต้องมาช่วยกันในการแก้ปัญหา ต้องสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาของชาวบ้าน ไม่ใช่ของส่วนราชการหรือของผู้ว่าฯ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในการให้ความร่วมมือ และเป็นหูเป็นตาให้กับส่วนราชการทั้งฝ่ายปกครองตำรวจ สาธารณสุข ที่พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลแก้ปัญหาไม่ฉะนั้นแล้วการแก้ปัญหายาเสพติดจะไม่หมดไปจากพื้นที่ โดยเฉพาะในปัจจุบันมีพวกคลุ้มคลั่งเกิดขึ้นจำนวนมาก และเป็นภัยต่อสังคม ฝ่ายปกครองมีอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 และป.วิ อาญา สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ทันที ก่อนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง
📌 การขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักระดับโลก การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญและขณะนี้เรื่องการท่องเที่ยวเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำก่อน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและจากประเทศจีนที่จะเข้ามาจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ได้มีการพบปะกับภาคธุรกิจเอกชนไปแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวต้องทำควบคู่ไปด้วยกันกับภาคการเกษตร เพราะประชากรส่วนใหญ่ของกระบี่ เป็นภาคการเกษตร แผนพัฒนาของจังหวัดกระบี่ หากงบประมาณไปทุ่มกับภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียว ประชาชนรากหญ้ายังยากจนเหมือนเดิม ก็จะแก้ปัญหาเรื่อง “การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไม่ได้”ฉะนั้น ภาคธุรกิจและภาคเกษตรต้องหนุนเสริมด้วยกัน ผลผลิตทางการเกษตรต้องยกระดับคุณภาพการผลิต มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้สามารถส่งเข้ามายังโรงแรมและร้านอาหารในจังหวัด ไม่ต้องพึ่งพาจากภายนอกก็จะช่วยหนุนเสริมเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัด แก้ปัญหาความยากจนลงได้
📌 ด้านศาสนาให้ความสำคัญกับทุกศาสนาในการอยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีและก่อให้เกิดสันติสุข
.
นอกจากนี้ทางผู้ว่าฯยังได้เปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมประชุมได้สะท้อนปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ในพื้นที่ ได้เชิญ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัดและ ท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ มาร่วมรับฟังด้วย
.
โดยปัญหาส่วนใหญ่ของทั้ง 2 อำเภอมีความคล้ายกัน ดังนี้ ปัญหายาเสพติดในชุมชน ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และปัญหาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น น้ำปะปา ไฟฟ้า
โดยผู้ว่าฯ กระบี่ ได้รับฟังปัญหาและมอบหมายให้นายราชัน มีน้อย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกระบี่ รวบรวมปัญหา เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป โดยเน้นย้ำว่าผู้ว่าฯพร้อมที่จะลงไปแก้ปัญหาในทุกเรื่อง และได้ให้ข้อคิดในการทำงานแก่ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารท้องที่ว่า “คนมหาดไทยรองเท้าต้องขาดก่อนกางเกง” นั่นหมายถึงอย่านั่งแต่ในห้องแอร์ต้องลงพื้นที่ไปดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ผู้ว่ากล่าวในที่สุด///
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น