มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก SDG5 ด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ จากการจัดอันดับ THE Impact Rankings 2025 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่ความยั่งยืนในระดับโลก พร้อมชูปรัญชาการผลิตบัณฑิตคุณภาพระดับสากล“เก่งวิชาการ เชี่ยวชาญปฏิบัติ”
ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ (มวล.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก Times Higher Education (THE) เผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) หรือ THE Impact Rankings 2025 โดยมีมหาวิทยาลัยจำนวน 2,526 แห่ง จาก 130 ประเทศทั่วโลกและสถาบันอุดมศึกษาไทย 83 แห่งเข้ารับการจัดอันดับ
ผลปรากฏว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ สามารถไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัย ‘TOP 100 ของโลก’ ได้สำเร็จ โดยอยู่ในอันดับที่ 93 ของโลก อันดับ 5 ของประเทศ โดยเฉพาะในด้านบทบาทการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศอย่างยั่งยืน หรือ SDG 5 : Gender Equality สามารถทำคะแนนได้ 85 จาก 100 คะแนนเต็ม ทะยานขึ้นแท่นครองอันดับ 1 ของโลก
“ม.วลัยลักษณ์สามารถขึ้นมาอยู่ Top100 ของโลกได้สำเร็จในปีนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของชาววลัยลักษณ์ ซึ่งในประเทศไทยมีเพียง 5 สถาบันที่ติด Top100 แสดงให้เห็นในเชิงประจักษ์ว่า มหาวิทยาลัยมีผลงานที่โดดเด่นเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก ที่รับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เชื่อว่าในอนาคตจะมีอันดับด้านอื่นๆที่ดีกว่านี้ต่อไป” ศ.ดร.สมบัติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ THE ได้จัดอันดับ World University Rankings 2025 ให้ ม.วลัยลักษณ์อยู่ในอันดับที่ 1201+ ของโลก อันดับ 6 ของไทย และติดอันดับ 501+ ของโลกในกลุ่ม Young University Rankings พร้อมครองแชมป์มหาวิทยาลัยสีเขียวภาคใต้ 5 ปีซ้อน การจัดอันดับ ม.สีเขียวโลก สะท้อนถึงคุณภาพของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ศ.ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษาเป็นอันดับแรก ภายใต้ปรัชญาการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพระดับสากล “เก่งวิชาการ เชี่ยวชาญปฏิบัติ” โดยหลักสูตรที่มีสภาวิชาชีพรองรับ เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัชฯ นักศึกษาจะต้องสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพอย่างน้อย 90% ในการสอนครั้งแรก และมหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับสหกิจศึกษา โดยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติสหกิจศึกษานานถึง 8 เดือน เพื่อให้นักศึกษามีทักษะความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพอย่างแท้จริง และสามารถทำงานได้ทันทีเมื่อสำเร็จการศึกษา
ที่สำคัญยังได้มีการนำระบบ UKPSF จากประเทศอังกฤษมาใช้สำหรับการเรียนการสอน เน้นให้นักศึกษามีทักษะในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ มีทักษะทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนของโลก ปัจจุบันมีจำนวนอาจารย์ผู้สอนที่ได้รับประกาศนียบัตรการเป็นผู้สอนมืออาชีพ UKPSF จากสถาบัน Advance Higher Education จำนวนมากเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย คือ 738 คน และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่ประกาศว่า “การเรียนการสอนในทุกหลักสูตร สอนภายใต้กรอบ UKPSF” ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญมากกับการสอนภาษาอังกฤษ โดยจัดให้มีการสอนห้องขนาดเล็กประมาณ 25 คนต่อห้อง พร้อมปรับเพิ่มชั่วโมงการสอนภาษาอังกฤษ พื้นฐาน จาก 270 เป็น 390 ชั่วโมง ถือเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่ปีการศึกษา 2568 เป็นต้นไป
ด้านคุณภาพชีวิตของนักศึกษา มหาวิทยาลัยได้พัฒนาห้องเรียนอัจฉริยะ Smart Classroom ทั้งหมด 177 ห้อง มีห้องทดลองและห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย มีการปรับปรุงและสร้างสนามกีฬาต่างๆ ให้มีมาตรฐานสากล มีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม มีสวนไม้ประดับขนาด 255 ไร่ ซึ่งใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยของไทย พร้อมพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มี Campus ที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยด้วย
“ทั้งหมดนี้ คือปัจจัยสำคัญที่สามารถรับประกันความมีคุณภาพระดับสากลของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับทั้งนักศึกษาและผู้ปกครองได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยแท้จริง” ศ.ดร.สมบัติ กล่าวในตอนท้าย
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น