กรุงเทพฯ – ผลการวิจัยล่าสุดจากงานวิจัย 135 ชิ้นทั่วโลก พบว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อปอดอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายเนื้อเยื่อปอดในหลายระดับ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคปอดเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้
รายงานระบุว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในปอดหลายประการ ได้แก่
- การอักเสบของหลอดลม: ทำให้หลอดลมตีบ แรงต้านของหลอดลมเพิ่มขึ้น และการเคลื่อนไหวของขนที่ดักจับสิ่งแปลกปลอมลดลง
- การทำลายถุงลมปอด: ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบ
- การทำลายชั้นผิวหลอดลม: ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบเฉียบพลันรุนแรง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคมะเร็งปอดได้อีกด้วย
ศาสตราจารย์ ดร. (ชื่อ-นามสกุล) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด กล่าวว่า “ผลการวิจัยชิ้นนี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับการเลิกบุหรี่ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้มากกว่าที่คิด”
คำแนะนำสำหรับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า:
- เลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด: การเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
- ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ: เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นได้รับอันตรายจากควันบุหรี่ไฟฟ้า
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการเตือนให้เห็นถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการควบคุมการผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น