วันที่ 29 ธ.ค. 64 ตามที่สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประชุมตัวแทนผู้ประกอบการนำเที่ยว และตัวแทนมัคคุเทศก์ จังหวัดกระบี่ พังงา และจังหวัดภูเก็ต ร่วมหามาตรการแนวทางการนำนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่อ่าวมาหยาได้ ในวันที่ 1 มกราคม 2564 โดยทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี ได้นำตัวแทนดังกล่าวลงพื้นที่ก่อนเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวได้ปฏิบัติตามมาตรการของอุทยานฯดังอย่างเคร่งครัด
นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานห่างชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้กล่าวชี้แจงทำความเข้าใจก่อนที่จะนำตัวแทนผู้ประกอบการนำเที่ยว และตัวแทนมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และจากกทม จำนวน 80 คน โดยมีนายสุคนธ์ หนูช่วย นายกสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ เลขาธิการสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และนายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ กรรมการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ก่อนลงพื้นที่อ่าวมาหยา หมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการต่างๆรวมถึงมัคคุเทศก์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ปฏิบัติตามมาตกราการของอุทยานหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี อย่างเคร่งครัด
นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า ได้ให้ข้อมูลและเอกสาร คู่มือการปฏิบัติ แก่ผู้ประกอบการนำเที่ยวที่สามารถนำนักท่องเที่ยวเข้าไปเหยียบอ่าวมาหยาได้ ต้องเปิดจองผ่านคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อน จากนั้นสามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 นาฬิกา ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อรอบ รวม 11 รอบๆละ 375 คน จำกัด 4,125 ต่อวัน ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาดเพราะต้องที่จะรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากและใกล้จะสูญพันธ์ เช่นฉลามหูดำ ที่มีมากว่า 100 ตัว และกุ้งมังกร 7 สี แต่สามารถเดินเล่นและนอนหน้าชายหาดได้ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับตามอัตราที่กรมฯกำหนด
ซึ่งจากการลงพื้นที่อ่าวมาหยาในครั้งนี้ ทางตัวแทนผู้ประกอบการนำเที่ยว และตัวแทนมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร ต่างพอใจกับบรรยากาศและธรรมชาติในอ่าวมาหยาเป็นอย่างมาก ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ภายในระยะเวลา 3 ปีเศษ ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ สามารถพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาได้ดีกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นท่าเทียบเรือ เส้นทางเดินเท้า ชายหาดที่มีหาดทรายขาวละเอียด พันธุ์ไม้หน้าชายหาด รวมถึงความสะอาดในท้องทะเล ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวอ่าวมาหยาโฉมใหม่นี้ จะประทับใจและมีความทรงจำเอาไว้อย่างไม่รู้ลืม
นายสุคนธ์ หนูช่วย นายกสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ เลขาธิการสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจากการมาสำรวจครั้งนี้ไม่ว่าเป็นสะพานท่าเทียบเรือในส่วนของมัคคุเทศก์ที่มาจากจังหงวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และกรุงเทพ มาดูสภาพอ่าวมาหยาแล้วพอใจแต่ว่าต้องปรับแก้ไปตามสภาพความเป็นจริง เพราะว่าเวลาปฏิบัติจริงๆต้องมีการแก้กันหน้างาน ในส่วนของการไม่ให้เล่นน้ำบริเวณหน้าชายหาดเห็นด้วย เพราะว่าเราต้องการ การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ อีกอย่างหนึ่งเรามีฝูงปลาฉลามหูดำอาศัยอยู่ในช่วงที่มีการปิดอ่าวมาหยาตรงนี้ 100 กว่าตัว ถ้าเราอนุรักษ์เอาไว้จะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอ่าวมาหยา โดยสภาพทั่วไปที่สำหรับเดิน สะพานมีความพร้อมเต็มที แต่วิธีการต่างๆบอกแล้วว่าเราสามารถปรับหน้างานได้
อยากจะฝากไปถึงมัคคุเทศก์ทุนคนที่ทำทัวร์มาอ่าวมาหยา เกาะพีพี และอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ให้มีการศึกษาข้อมูลระเบียบให้ชัดเจน ข้อห้ามข้อควรระวัง ต้องให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยวให้ชัดเจนว่า อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ถ้าหากว่าไม่ให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวชัดเจน ปัญหาจะเกิดกับทัวร์ของคุณและตัวคุณเองต้องรับปิดชอบ ในนามของสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ และสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่าเราต้องปรับต้องเปลี่ยนดูหน้างานอีกที่ สำหรับการจองคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้มีการจองบัตรคิวก็ต้องดูต้องปรับไปว่าหน้างานเป็นอย่างไร เพราะกติกาต่างๆเรายังแก้ไขและปรับปรุงได้อยู่
ขอบคุณภาพ/ข่าว สิทธิชัย สิขวัตร
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น