จังหวัดกระบี่จัดพิธีวางพวงมาลาน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แสดงความจงรักภักดีแด่พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
วันที่ (23 ต.ค.2564) เวลา 09.00 น.นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 ) โดยมีนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ ผู้บริหาร ส่วนราชการ สมาคม ชมรม จำนวน 50 หน่วยงาน เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่
โดยประธานในพิธีถวายเคารพและวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นนำผู้เข้าร่วมพิธียืนสงบนิ่ง เป็นเวลา 57 วินาที เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณทั้งในการปกครองบ้านเมืองและพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญานามพระองค์ว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช” ที่มีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) กับสมเด็จพระเทพศิรินทราพระบรมราชินีหลังจากที่รัชกาลที่ 4 เสด็จสวรรคต พระองค์ก็เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ขณะพระชนมายุ 16 พรรษา พระองค์มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างยิ่งของพระองค์ ก็คือ การเลิกทาส ตั้งแต่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ด้วยทรงไม่ต้องการให้มีการกดขี่เหยียดหยามคนไทยด้วยกันเอง และทรงเห็นว่าการมีทาสเป็นสิ่งที่ล้าสมัย ไม่เหมาะกับประเทศที่เจริญแล้ว โดยในปี พ.ศ. 2416 พระองค์ได้ทรงตราพระราชบัญญัติทาส ห้ามคนที่เกิดในรัชกาลปัจจุบันเป็นทาส ด้านการทหารและการปกครองประเทศ : ทรงนำแบบอย่างทางทหารของประเทศแถบยุโรปมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย มีการจัดตั้งกรมเสนาธิการทหารบกขึ้นเป็นครั้งแรก และทรงตั้งโรงเรียนนายร้อยทหารบกและทหารเรือ ตลอดจนส่งพระราชโอรสไปศึกษาวิชาการทหารในทวีปยุโรป ด้านการปกครองประเทศ : ทรงให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ แยกหน่วยราชการออกเป็นกรมกองต่างๆ จากเดิมมี 6 กระทรวง และได้เพิ่มอีก 4 กระทรวง ในส่วนภูมิภาคทรงให้จัดตั้ง "มณฑลเทศาภิบาล" ขึ้นเป็นครั้งแรก อยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย ด้านเศรษฐกิจและการคลัง : ทรงให้มีการจัดทำงบประมาณแผ่นดินขึ้น โดยทรงให้แยกเงินแผ่นดินและเงินส่วนพระองค์ออกจากกัน และทรงให้จัดตั้งธนาคารขึ้นเป็นครั้งแรก คือ แบงก์สยามกัมมาจล หรือธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีพระมหากรุณาธิคุณ ด้านการศึกษา ด้านต่างประเทศ ด้านคมนาคมและสาธารณูปโภค นานัปการ โดยการกิจกรรมอยุ่ภายใต้ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ////
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
นางสาวปานอุมา แหละยุหีม
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น