ผวจ.กระบี่ ประชุมร่วมกับผู้นำศาสนาอิสลาม กำหนดแนวทางการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา งดเว้นการรวมตัวกันที่มัสยิม ตามประเพณีและความเชื่อ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID -19 จะเข้าสู่ภาวะปกติ
27 มี.ค.2563 เวลา 10:00 น. พ.ต.ท.หม่อมหลวง กิตติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ประธานการประชุมร่วมกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสตับอักเสบ COVID -19 โดยมี นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ร่วมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายอัสนาวี มุคุระ ประธานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ ( กอจ.กระบี่) พร้อมด้วย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ อิหม่ามประจำมัสยิด หน.ส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ ร่วมประชุม ทั้งนี้สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID -19 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น การควบคุม ป้องกัน และการจำกัดวงในการแพร่ระบาดเป็นแนวทางสำคัญที่ประชาชนทุกคนจะต้องมีวินัย ให้ความร่วมมือและตระหนักในความรับผิดชอบร่วมกันในสังคม เพื่อมุ่งให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดกระบี่ มีความปลอดภัย โดยการปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดกระบี่ ทั้ง 4 ฉบับ โดย ในการปฏิบัติตนยังคงเน้นการรักษาความสะอาด การล้างมือบ่อย ๆ และในส่วนของสังคมเป็นเรื่องสำคัญมาก การใกล้ชิดกันของประชาชน ซึ่งไม่ทราบว่ามีใครได้รับเชื้อมาหรือไม่ บางคนได้รับเชื้อมาแต่ยังไม่แสดงอาการ เมื่อเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดมีโอกาสของการแพร่ระบาดได้มาก ดังนั้นจึงได้กำหนดระยะห่างทางสังคม ด้วยการอยู่บ้าน ออกไปปฏิบัติภารกิจเท่าที่จำเป็นและมีการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือเพื่อความสะอาด การเว้นระยะห่างกันของประชาชน ที่เรียกว่า SOCIAL DISTANCING ด้วยการหลีกเลี่ยงการเข้าไปที่ชุมนุม หรือสถานที่ที่มีการรวมคนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของการปฏิบัติศาสนกิจของ มุสลิม ที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่มีความเชื่อเรื่องการละหมาดเป็นกลุ่ม และละหมาดวันศุกร์ ที่ทำร่วมกันพร้อมกันเป็นหมู่คณะในมัสยิด นับเป็นความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเป็นอย่างมาก ทุกฝ่ายจึงได้หารือและซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน เพื่อป้องกัน และลดโอกาสของการแพร่ระบาดลงได้มาก ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีได้
นายอัสนาวี มุคุระ ประธานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในถานการณ์เช่นนี้ ชาวมุสลิม ได้รับทราบ เข้าใจแนวทางและวิธีการปฏิบัติ ซึ่งคาดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีการรวมตัวกันประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิด โดยสามารถละหมาดที่บ้านได้ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นไปตามแถลงการณ์ของจุฬาราชมนตรี เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติดังกล่าว
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น