ตัวแทนชาวบ้าน ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการตรวจยึดพื้นที่หมดสัมปทาน และเรียกร้องที่ดินทำกิน ซึ่งจังหวัดออกประกาศ จะดำเนินการตามระเบียบ และจัดให้ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน
เวลา 11.00 น.วันที่ 7 พ.ย.62 ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน บางสันพัฒนา ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ นำโดยนายสมใจ นวลนุ่น ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน ได้รวมตัวเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องทวงถาม ต่อ พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายศรณ์ รักรงค์ ป้องกันจังหวัดกระบี่ รับเรื่องร้องเรียน โดยมีข้อเรียกร้อง ในเรื่อง การเข้าตรวจยึดพื้นที่หมดสัมปทานของบริษัทยูนิวานิช น้ำมันปาล์มจำกัด (มหาชน) ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าปลายคลองพระยา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 ว่า การตรวจยึดพื้นที่ได้ล่วงเลยเวลามา 1 เดือน 13 วันแล้ว ชาวบ้านยังเห็นบริษัทยังทำการดำเนินการอย่างปกติ จึงได้ทวงถามเพื่อทราบข้อเท็จจริง รวมทั้ง การเพิกถอนพื้นที่ น.ส. 3 ก ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่บริษัทได้กล่าวอ้างว่า บริษัทได้ขึ้นรูปแปลงเพื่อรอการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ไว้แล้ว ซึ่งจังหวัดฯ รับเรื่องไว้ดำเนินการต่อไป
สำหรับในประเด็นการชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกิน นั้น จังหวัดได้มีการออกประกาศชี้แจงทำความเข้าใจการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ด้วยความตระหนักและมีความห่วงใยต่อประชาชนที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกชักจูง ถูกหลวกลวง โดยการถูกเรียกเก็บเงินค่าสมาชิก ค่าบริหารจัดการพื้นที่จากผู้แทนบางกลุ่ม จังหวัดจึงได้มีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช. )จังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า จังหวัด มีมติให้ สำนักจัดการป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิสูจน์สิทธิ ได้มีการเปิดรับลงทะเบียนเกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อทราบจำนวนผู้เดือดร้อน ก่อนจัดที่ดินบริเวณที่หมดอายุการอนุญาตใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขตปฏิรูปที่ดินให้ แต่การจัดสรรจังหวัดต้องรอการพิจารณาส่งมอบพื้นที่จากคณะกรรมการจัดที่ดินก่อน จากนั้นคณะทำงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป และผู้มีสิทธิ์ที่ได้รับการจัดที่ดินจะต้องเป็นคนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. กำหนดเท่านั้น พร้อมกันนี้กลุ่มชาวบ้านยังขอให้ทางจังหวัดดำเนินเรื่องตามข้อเรียกร้อง ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น