ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงฯ พร้อมสนับสนุนของบบูรณาการด้านการท่องเที่ยว ให้จังหวัดกระบี่แก้ไขปัญหาในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวพีพี
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ได้ประชุมติดตามการทำงานของคณะทำงานจัดระเบียบสังคมจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม อบต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีนายสมโภช โชติชูช่วง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายนันธวัช เจริญวรรณ ปลัดจังหวัดกระบี่ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ในช่วงเช้า คณะของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางลงพื้นที่เกาะพีพี และแหล่งท่องเที่ยวตำบลอ่าวนาง รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เพื่อพบปะผู้ประกอบการ รับฟังปัญหา และแก้ไขปัญหารการจัดระเบียบสังคมในพื้นที่ ซึ่งในที่ประชุมผู้เกี่ยวข้องในภาคส่วนต่าง ๆ ต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้การสนับสนุนเพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย มีเอกลักษณ์ และยั่งยืน เนื่องจากจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักสร้างรายได้ให้ประเทศสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ โดย ในปี 2561 มีผู้มาเยือนมากกว่า 6.9 ล้านคนสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 118,676 ล้านบาท
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการมีโอกาสประชุมร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่า ปัญหาของจังหวัดกระบี่ มีหลายปัญหาที่สำคัญและต้องได้รับการแก้ไข แต่ไม่อาจดำเนินการได้ทั้งหมดในคราวเดียวกัน จำเป็นต้องหารือ ว่าจะดำเนินการแก้ไขแต่ละปัญหาอย่างไร โดยจัดลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหารูปธรรมในระยะเวลาอันใกล้ เช่นเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย ทราบว่าจังหวัดได้ประสานงานกับองค์การจัดการน้ำเสีย แต่อาจต้องรอเรื่องระยะเวลาในการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งหากยังมีระยะเวลา อยากให้เสนอของบบูรณาการด้านการท่องเที่ยวกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะพิจารณาให้การสนับสนุน ขอให้เตรียมการไว้หากในช่วงกลางปีมีงบเพิ่มเติมจะสามารถดำเนินการได้ สำหรับประเด็นเรื่อง กล้องซีซี เป็นกลไกอย่างหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี พบว่าเป็นปัญหาในส่วนของข้อกฎหมาย การแบ่งจัดสรรภารกิจของหน่วยงานราชการ แต่ละหน่วยมีเงื่อนไข หลักเกณฑ์ในการทำงาน ขอบเขตอำนาจในการแก้ไขปัญหาไม่ครอบคลุมถึงครบถ้วน ดังนั้นจึงอยากเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาคุยพร้อมกัน แทนการคุยแบบแยกส่วนที่ผ่านมา เพื่อได้แสวงหาหรือสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน ถ้าเป็นไปได้ ควรเป็นประมาณ 1-2 เดือน นี้ จะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว นอกจากนั้นในการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เข้าตรวจสอบการก่อสร้างอาคารส่วนที่ผิดไปจากที่ได้รับอนุญาต และที่ก่อสร้าง ดัดแปลงเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากการพูดคุยเจ้าของอาคารได้รับจะรื้อภายใน 7 วัน หลังจากเรื่องนี้มีความยืดเยื้อมาระยะหนึ่งแล้ว
0 Comments :
แสดงความคิดเห็น